องค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (World Organization for Animal Health หรือ Office International des Epizooties; OIE)


ข้อมูลเบื้องต้น

องค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (Office International des Epizooties; OIE) เป็นองค์การระหว่างรัฐบาล มีการลงนามเพื่อก่อตั้ง OIE ตามข้อตกลงของนานาชาติ เมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2467 และในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2546 ได้เปลี่ยนชื่อองค์การเป็น World Organization for Animal Health แต่คงชื่อย่อ OIE ไว้ เหตุผลของการก่อตั้ง OIE เนื่องจากในปี พ.ศ. 2463 มีการระบาดของโรครินเดอร์เปสต์ (Rinderpest) ในประเทศเบลเยี่ยม และโรคนี้ได้แพร่ระบาดไปทั่วทวีปยุโรป ประเทศต่าง ๆ รวม 28 ประเทศ จึงได้ร่วมกันลงนามก่อตั้ง OIE ขึ้นในปี พ.ศ. 2467 เพื่อเป็นองค์การกลางในการประสานความร่วมมือในการป้องกันและควบคุมโรคระบาดสัตว์ที่มีความสำคัญ เพื่อไม่ให้โรคระบาดสัตว์ก่อความสูญเสียต่อชีวิตสัตว์และมนุษย์ รวมถึงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของโลก


วัตถุประสงค์

1. สร้างความโปร่งใสเกี่ยวกับสถานการณ์โรคระบาดสัตว์ทั่วโลก(Transparency: Ensure transparency in the global animal disease situation) ประเทศสมาชิกแต่ละประเทศมีหน้าที่ความรับผิดชอบที่จะต้องรายงานโรคสัตว์ที่ตรวจพบในเขตพื้นที่ให้ OIE ทราบ หลังจากนั้น OIE จะทำการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวให้ประเทศสมาชิกอื่นๆ ทราบ เพื่อให้สามารถเตรียมมาตรการป้องกันโรคอย่างเหมาะสม ซึ่งรวมถึงข้อมูลโรคสัตว์ที่สามารถติดต่อสู่คนและข้อมูลของเชื้อก่อโรค

2. รวบรวม วิเคราะห์ และเผยแพร่ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์(Scientific Information: Collect, analyse and disseminate veterinary scientific information) OIE ทำการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นปัจจุบันเกี่ยวกับการควบคุมโรคสัตว์ โดยอาศัยข้อมูลจากเครือข่ายผู้ประสานงานของ OIE และห้องปฏิบัติการอ้างอิง แล้วเผยแพร่ให้ประเทศสมาชิกผ่านช่องทางต่างๆ ซึ่งประเทศสมาชิกสามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้ในการปรับปรุงวิธีการควบคุมและกำจัดโรคได้

3. เสริมสร้างความเข้มแข็งของกิจกรรมด้านการควบคุมโรคสัตว์ให้กับประเทศสมาชิก (International Solidarity: Encourage international solidarity in the control of animal diseases) OIE ให้การสนับสนุนทางเทคนิคในการควบคุม กำจัดโรคสัตว์และโรคสัตว์สู่คน โดย OIE จะให้ความช่วยเหลือในการจัดหาผู้เชี่ยวชาญให้กับประเทศที่ขาดแคลนงบประมาณ เพื่อช่วยเหลือในการวางมาตรการควบคุมโรคสัตว์ที่ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อธุรกิจการเลี้ยงสัตว์หรือก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพของมนุษย์

4. ออกข้อกำหนดด้านสุขภาพสัตว์เพื่อใช้เป็นมาตรฐานกลาง ในการเจรจาเพื่อการค้าสัตว์ รวมถึงผลิตผลหรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ (Sanitary Safety: Safeguard world trade by publishing health standards for international trade in animals and animal products) โดยการกำหนดกฎเกณฑ์ทางการค้าที่เกี่ยวกับสุขอนามัยสัตว์และความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เพื่อให้ประเทศสมาชิกใช้เป็นเกณฑ์อ้างอิงร่วมกันเพื่อวัตถุประสงค์ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเข้าสู่ประเทศผู้นำเข้าผ่านทางการค้าสัตว์ ผลิตผลหรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ และเพื่อไม่ให้มีการนำหลักสุขอนามัยมาใช้เพื่อกีดกันทางการค้าอย่างไม่เป็น

5. ส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมการให้บริการทางสัตวแพทย์ ในระดับนานาชาติ (Promotion of veterinary services: Improve the legal framework and resources of national Veterinary Services) OIE ให้ความช่วยเหลือในการพัฒนากิจกรรมการให้บริการทางสัตวแพทย์ และห้องปฏิบัติการแก่ประเทศกำลังพัฒนาที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยจัดหาปัจจัยพื้นฐาน ทรัพยากร และการพัฒนาสมรรถนะที่จำเป็น เพื่อให้ประเทศสมาชิกสามารถปฏิบัติงานในกรอบตามมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชขององค์การการค้าโรค (WTO Sanitary and Phytosanitary Agreement; SPS Agreement) ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็สามารถปกป้องสุขภาพสัตว์และสุขอนามัยของมนุษย์ได้

6. การประกันความปลอดภัยอาหารจากสินค้าปศุสัตว์ และส่งเสริมการจัดการด้านสวัสดิภาพสัตว์บนพื้นฐานข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ (Food safety and animal welfare: To provide a better guarantee of food of animal origin and to promote animal welfare through a science-based approach) ประเทศสมาชิกของ OIE เห็นชอบร่วมกันในการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยอาหารสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารที่มีแหล่งที่มาจากสัตว์ โดยสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมระหว่าง OIE และโครงการมาตรฐานอาหาร FAO/WHO หรือ Codex Alimentarius Commission ขึ้น ทั้งนี้ OIE มีหน้าที่หลักในการกำหนดมาตรฐานเกี่ยวกับการผลิตสัตว์ในระดับฟาร์ม จนถึงโรงฆ่าสัตว์ หรือจนได้ผลิตผลจากสัตว์นั้น (เนื้อ นม และไข่) นอกจากนี้ OIE ได้มีส่วนร่วมในการกำหนดมาตรฐานของโคเด็กซ์ผ่านทางการประชุมคณะกรรมการโคเด็กซ์ (Codex Committee) สาขาต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง