ABOUT US


aboutus-inter.png


กองความร่วมมือระหว่างประเทศ

นโยบายและความสัมพันธ์กับต่างประเทศได้ขยายตัวมากขึ้นในทุกๆ มิติ อาทิ นโยบายการค้าเสรี การส่งเสริมการลงทุน การอำนวยความสะดวกทางการค้า การลดภาษี การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ รวมถึงกระแสความเปลี่ยนแปลงด้านสังคมและเศรษฐกิจ เช่น ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ การค้าออนไลน์ที่เข้าถึงประชาชนได้ทุกที่ ทุกเวลา ก่อให้เกิดการกระจายสินค้าจากประเทศต่างๆ อย่างรวดเร็ว เป็นเรื่องใกล้ตัวที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าและบริการ ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในทุกระดับ นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดการเจรจาต่อรองในเวทีต่างๆ ที่มีความซับซ้อนตามระดับของการแข่งขันทางการค้าและส่งผลกระทบต่องานคุ้มครองผู้บริโภค เช่น อาเซียน เอเปค องค์การการค้าโลก รวมไปถึงเวทีระดับพหุภาคี และเวทีทวิภาคี เป็นต้น ภารกิจต่างประเทศจึงมีความสำคัญต่อการดำเนินงานของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ซึ่งเป็นส่วนราชการที่มีหน้าที่รับผิดชอบหลักในการคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ ได้แก่ ยา อาหาร เครื่องมือแพทย์ เครื่องสำอาง วัตถุอันตราย ผลิตภัณฑ์สมุนไพร และวัตถุเสพติด 

จากกระแสโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วดังกล่าวข้างต้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาจึงได้จัดตั้ง สำนักความร่วมมือระหว่างประเทศ ขึ้นเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2549 ภายใต้สังกัดกองแผนงานและวิชาการ เพื่อรองรับและทำหน้าที่เฉพาะภารกิจด้านต่างประเทศของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สามารถดำเนินการด้านการต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีหน้าที่ในการประสานและติดตามความคืบหน้าในความเคลื่อนไหวและเปลี่ยนแปลงของโลกในประเด็นที่อาจกระทบต่อระบบงานคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อให้สามารถกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์การดำเนินงานขององค์กรให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์โลก ทั้งนี้สำนักความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้ย้ายมาอยู่ภายใต้กองแผนงานและวิชาการในปี พ.ศ. 2553 และได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ศูนย์ความร่วมมือระหว่างประเทศ” ในปี พ.ศ. 2559 ภายใต้สังกัดกองแผนงานและวิชาการ (ในปัจจุบันเปลี่ยนเป็น กองยุทธศาสตร์และแผนงาน) ในปี พ.ศ.2559

ในปี 2564 เพื่อให้การบริหารราชการภายในสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาบรรลุเป้าหมายตามภารกิจที่เปลี่ยนแปลงและสอดคล้องกับนโยบายในการบริหารงานให้เกิดความรวดเร็ว คล่องตัว และมีประสิทธิภาพจึงมีคำสั่งจัดตั้งหน่วยงาน ศูนย์ความร่วมมือระหว่างประเทศ ให้เทียบเท่ากอง และเปลี่ยนชื่อเป็น “กองความร่วมมือระหว่างประเทศ” หรือ “กปท.” ตามคำสั่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ที่ 251/2564 ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2564 


Frame.png